top of page

8 คำถามเกี่ยวกับพนักงาน ที่องค์กรต้องตอบให้ได้ก่อนปี 2023

อัปเดตเมื่อ 15 พ.ย. 2565



ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งองค์กรและพนักงานต้องเผชิญและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างเป็นมาก และการเปลี่ยนแปลงนี้ก็ทำให้พนักงานหลายคนเริ่มคุ้นเคยกับบรรทัดฐานใหม่ของการทำงาน ทำให้องค์กรต้องหันมาจริงจังกับการจัดการพนักงานที่มีความหลากหลายทั้งในตัวบุคคล รูปแบบการทำงาน ความต้องการตามวิถีชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่องค์กรต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนก้าวเข้าสู่ปี 2023 นี้ เพื่อเตรียมแผนรับมือให้ทัน


1. องค์กรจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ Digital Transformation ได้อย่างไร?


ตามการคาดคะเนของ Gartner ระบุว่า ภายใน 2026 คนส่วนใหญ่จะใช้เวลาในโลก Metaverse อย่างน้อย 1 ชม. ต่อวัน นั่นหมายถึงว่า ในปี 2023 นี้ ในฐานะผู้นำขององค์กร ต้องเริ่มต้นหันมาให้ความสนใจในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีมากขึ้น เช่น การประชุมในโลกเสมือนจริง การเพิ่มความรู้และพัฒนาศักยภาพผ่านการจำลองสถานการณ์ที่เสมือนจริง

แต่ข้อควรระวังที่ต้องคำนึงคือ อย่าทำอะไรในโลกดิจิทัลที่เกินความจริงเกินไป จนไม่สามารถนำมาประยุกต์หรือเข้ากับโลกความจริงได้ เพื่อให้พนักงานยังคงพฤติกรรมอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง เชื่อมติดกับรูปธรรมขององค์กร ไม่หลุดเข้าไปในโลกเสมือนเพียงอย่างเดียว

2. องค์กรจะบริหารจัดการรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างไร?


แนวโน้มรูปแบบทำงานนั้นเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมากหลังจากการระบาด จากข้อมูล Linkedin แสดงให้เห็นว่า งาน Remote Working คิดเป็นประมาณ 20% ของงานทั้งหมดที่ประกาศบน Linkedin และมีคนสมัครงานในรูปแบบ Remote Working มากกว่า 50% ของการสมัครงานทั้งหมด

ในขณะที่การสำรวจของ ADP Research Institute ระบุว่า 64% ของพนักงานจะพิจารณาลาออกหากถูกคาดหวังให้กลับมาทำงานเต็มเวลาที่ออฟฟิศ และ 75% ของคนทำงานระบุว่าการทำงาน WFH ทำให้พวกเขามีความสุขมากขึ้น

ตัวเลขต่างๆ นั้นล้วนบ่งชี้ให้องค์กรต้องเริ่มคิดในเรื่องการพัฒนานโยบายการทำงานในรูปแบบผสมผสาน ที่ยังต้องไม่กระทบกับศักยภาพการทำงานของพนักงาน ไม่ทำให้ความสัมพันธ์ขององค์กรและพนักงานห่างเหิน รวมถึงมีเทคโนโลยีที่รองรับให้พนักงานสามารถทำงานแบบผสมผสานได้อย่างราบรื่น


3. องค์กรจะพัฒนาศักยภาพพนักงานให้ทันยุคดิจิทัลได้อย่างไร?


ตามกระแสของ The Great Resignation จนมาถึง The Great Rehire นั้นเป็นสิ่งที่องค์กรต้องตอบให้ได้ว่าจะมีกลยุทธ์ที่จะเข้ามาช่วยในเรื่อง Learning ให้กับพนักงานใหม่ และ Development ให้กับพนักงานปัจจุบัน ให้เท่าทันกับเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงไป McKinsey ระบุว่าสาเหตุลำดับต้นๆ ของการลาออกนั้น เพราะพนักงานนั้นขาดการพัฒนาทักษะและความก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพ

โดยในปี 2023 เราจะเห็นการมุ่งเน้นที่การเรียนรู้เชิงกลยุทธ์มากขึ้น โดยเป็นการเรียนรู้ทางทักษะทั้ง Hard Skill และ Soft skill ควบคู่กันไป โดยการจะนำทักษะต่างเหล่านี้ไปใช้ในการทำงานนั้น ทาง HR หรือองค์กรต้องค้นหาเครื่องมือในการการอบรมเรื่องเดิมแต่เปลี่ยนรูปแบบใหม่ เช่น การเรียนรู้ในรูปแบบ On demand Training ที่สามารถให้พนักงานเรียนรู้ได้แบบยืดหยุ่น สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา

และแนวโน้มเรียนรู้อีกรูปแบบหนึ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ Personalized Workplace Learning การเรียนรู้ส่วนบุคคล ซึ่งสองปัจจัยที่ต้องคำนึงคือ การให้พนักงานได้เลือกในสิ่งที่พวกเขาสนใจ บนรูปแบบการเรียนรู้ที่พวกเขาต้องการ

4. องค์กรจะสร้างแรงจูงใจให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร?

10 สถิติเกี่ยวกับภาวะหมดไฟ และเรื่องจริงที่องค์กรต้องรู้ในปี 2022

1. ภาวะหมดไฟส่งผลกระทบต่อพนักงานประมาณ 70%

2. ภาคการบริการมีอัตราภาวะหมดไฟสูงสุด 80%

3. คนรุ่นมิลเลนเนียลเป็นรุ่นที่เผชิญกับภาวะหมดไฟมากที่สุด 59%

4. คน Gen Z เกิดภาวะหมดไฟเร็วกว่ารุ่นอื่นๆ โดยเพิ่มเป็น 58% จาก 47% ในเวลาเพียง

ปีเดียว

5. พนักงานที่มีภาวะหมดไฟในการทำงานมีแนวโน้มที่จะหางานใหม่มากกว่า 50%

6. พนักงาน 36% ยอมรับว่าองค์กรไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพื่อป้องกันภาวะหมดไฟ

7. อัตราเงินเดือน ไม่สามารถรักษาภาวะหมดไฟได้

8. ความยืดหยุ่นสามารถลดภาวะหมดได้ 50%

9. ความช่วยเหลือจากผู้นำสามารถลดภาวะหมดไฟได้กว่า 30%

10. ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงและมีจริยธรรมช่วยป้องกันภาวะหมดไฟได้


จากสถิติทั้งหมดเป็นเครื่องบ่งชี้อย่างเห็นได้ชัด ว่าภาวะหมดไฟกำลังเป็นภัยคุกคามของคนทำงานในยุคนี้ ดังนั้นองค์กรจะคิดค้นหาวิธีการที่จะสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพแวดล้อมในชีวิตประจำวันและรูปแบบการทำงานที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน


5. องค์กรจะรับมือกับความหลากหลายของคนในองค์กรอย่างไร?


เมื่อเทคโนโลยีสามารถเข้าถึงง่าย แน่นอนว่าเป็นหนทางให้คนส่วนใหญ่สามารถ Upskill ได้เพิ่มมากขึ้น นั่นหมายถึงเป็นโอกาสขององค์กรที่จะได้ Talents ใหม่ๆ ที่มีความสามารถหลากหลายและมาจากต่างพื้นที่ ดังนั้นสิ่งที่องค์กรจะต้องเตรียมรับมือ คือการจัดการพนักงานที่มีความหลากหลายทั้งในด้าน เพศ อายุ เชื้อชาติ

โดยผลสำรวจระบุว่า 3 ใน 4 ของผู้หางานและพนักงานชอบบริษัทที่มีความหลากหลาย ในขณะที่บริษัทที่สามารถจัดการพนักงานที่มีความแตกต่างกัน สามารถเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท 19% ในขณะที่ 70% ของบริษัทที่มีความหลากหลายมีโอกาสที่จะสามารถเจาะเข้าตลาดใหม่ๆ ได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ความหลากหลายไม่ได้สำคัญเพียงเพราะเป็นแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น แต่ยังเป็นหนทางที่สามารถพัฒนาธุรกิจและสร้างรายได้ให้กับองค์กรได้

6. องค์กรจะจัดการกับความต้องการของพนักงานที่แตกต่างกันได้อย่างไร?


เมื่อธุรกิจส่วนใหญ่จำเป็นต้องปรับตัวมากขึ้น จนเกิดเป็นรูปแบบการทำงานที่หลากหลาย ทั้งแบบ Remote Hybrid และ Workation ความยืดหยุ่นก็เข้ามาเป็นบรรทัดฐานใหม่ของการทำงาน ทำให้แต่ละคนนั้นมีความต้องการที่แตกต่างกันตามวิถีชีวิต

เช่น พนักงานที่ Remote ก็อาจมีความต้องการที่แตกต่างกับพนักงานที่ทำแบบ Hybrid หรือพนักงานที่ประจำอยู่ออฟฟิศ พนักงาน Workation ก็อาจต้องการสิทธิประโยชน์ที่ตนเองสามารถใช้ระหว่างเดินทางได้ พนักงานที่มีครอบครัวก็อาจมีความต้องการที่แตกต่างกับพนักงานที่ยังโสด ทำให้องค์กรต้องหันมาใส่ใจในด้านสิทธิประโยชน์ของพนักงานที่มีวิถีชีวิตการทำงานและวิถีชีวิตส่วนตัวที่แตกต่างกัน ว่าจะมีกลยุทธ์หรือเครื่องมือใดที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานได้ไม่ว่าจะทำงานอยู่ที่ใดก็ตาม

7. องค์กรจะรักษาพนักงานที่มีอยู่ได้อย่างไร?


จากข้อมูลของ McKinsey ระบุว่า เหตุผลหลัก 54% ที่ทำให้พนักงานลาออกคือ พนักงานไม่รู้สึกถึงการมีคุณค่าต่อองค์กร อีก 51 % คือไม่รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในที่ทำงาน และ72% ของพนักงานให้ความสำคัญกับความรู้สึกการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร


ดังนั้นการหาหนทางสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างพนักงานกับองค์กรยังเป็นประเด็นลำดับต้นๆ ที่องค์กรควรหันมาให้ความสนใจและตอบตัวเองให้ได้ว่าจะลดช่องว่างระหว่างพนักงานและองค์กรได้อย่างไร และจะมีวิธีการใดที่จะรักษาพนักงานไม่ให้ลาออกไป

8. องค์กรจะดึงดูด Talent ใหม่ๆ ได้อย่างไร


จากการสำรวจระบุว่า 75% ของคนหางานนั้นมีการค้นคว้าเกี่ยวกับชื่อเสียงขององค์กรก่อนตัดสินใจสมัครงานบริษัทนั้นๆ ข้อมูลเพิ่มเติมยังระบุว่าผู้หางานต้องการรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานที่องค์กรจะสามารถเสนอให้ โดย 67% คำนึงในเรื่องของอัตราผลตอบแทน ในขณะที่ 63% คำนึงให้เรื่องสิทธิประโยชน์ของพนักงาน และ 58% คำนึงเรื่องการสื่อสารภายในองค์กร

ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเรื่องที่องค์กรต้องใส่ใจในภาพลักษณ์ของบริษัทเพิ่มมากขึ้น สร้างโอกาสการพบเห็นในสื่อออนไลน์ แสดงให้ Talent ใหม่ๆ ได้เห็นว่าไม่เพียงมีอัตราการตอบแทนที่ดึงดูดเท่านั้น แต่ยังมีสิทธิประโยชน์ที่โดดเด่นและตอบสนองความต้องการของ Talent แต่ละคนได้


จะเห็นได้ว่าในปี 2023 ที่กำลังมาถึง มีสิ่งที่องค์กรต้องเตรียมรับมือเป็นอย่างมาก อีกมุมหนึ่งก็อาจเป็นความท้าทายว่าจะทำอย่างไรที่จะรับมือกับสถานการณ์การทำงานที่จะเกิดขึ้น แต่อีกนัยหนึ่งนับเป็นโอกาสที่องค์กรสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นภายในองค์กร ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจนำไปสู่ประโยชน์ที่ Win-Win ทั้งต่อองค์กรและพนักงาน หากองค์กรสามารถตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของพนักงานได้ พนักงานก็ตอบแทนกลับมาด้วยการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความเติบโตและก้าวไปสู่ความสำเร็จร่วมกันได้


ข้อมูลอ้าวอิง :

https://www.limeade.com/resources/blog/employee-burnout-statistics-for-2022/#:~:text=Gen%20Xer%20burnout%20rates%20jumped,making%20%24100%2C000%20and%20above%20annually.

https://passport-photo.online/blog/burnout-statistics/

10 Important Job Trends You Should Know in 2022/2023 - Financesonline.com

https://www.forbes.com/sites/tracybrower/2022/07/24/burnout-is-a-worldwide-problem-5-ways-work-must-change/?sh=5e93a06e6c1e

https://www.ebcflex.com/benefittrends2022/

https://hr.university/dei/diversity-in-the-workplace-statistics/#:~:text=Studies%20have%20shown%20that%20the,represented%2017%25%20of%20the%20workforce.

https://builtin.com/diversity-inclusion/diversity-in-the-workplace-statistics

https://www.northone.com/blog/small-business/workplace-diversity-statistics

ADP Research Institute® Reveals Pandemic-Sparked Shift in Workers' Priorities and Expectations in New Global Study - Apr 25, 2022

10 Important Job Trends You Should Know in 2022/2023 - Financesonline.com

https://www.octanner.com/insights/white-papers/5-culture-trends-for-2023.html

https://gethownow.com/blog/hr-trends-and-predictions-for-2023/

https://www.hcamag.com/us/specialization/benefits/top-5-benefits-remote-employees-plan-to-elect-in-2023/426184#:~:text=According%20to%20the%20MetLife%202022,workshops%20or%20tools%20(26%25).

https://www.forbes.com/sites/carolinecastrillon/2022/10/02/top-ten-most-valued-employee-benefits/?sh=1002a66021ac

https://www.ajobthing.com/blog/employee-benefits-trends-2023

bottom of page