top of page

สุดยอด 13 สกิลที่ต้องมี เพื่อต้อนรับโลกการทำงานในอนาคต




เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าในยุคปัจจุบันดิจิทัลและ AI กำลังเปลี่ยนแปลงโลกการทำงานของเรา และในอุตสาหกรรมการทำงานก็ควรที่จะต้องเรียนรู้สกิลใหม่ ๆ พร้อมทั้งปรับตัวอยู่เสมอกับการเปลี่ยนแปลง ในยุคนี้การเปลี่ยนแปลงจะไม่ใช่วิกฤติ แต่จะเป็นโอกาสสำหรับหลาย ๆ ธุรกิจ ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์โควิดที่เข้ามาอย่างกระทันหันก็ยิ่งเป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่เร่งความเร็วของการเปลี่ยนแปลงให้เร็วมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงเลี่ยงไม่ได้ที่เหล่ามนุษย์วัยทำงานทุกคนจะต้องเรียนรู้และเปิดรับสกิลใหม่ ๆ


McKinsey ได้ทำการสำรวจประเภทของงานที่ค่อย ๆ ลดลง และประเภทงานที่่ขยายตัวเพิ่มขึ้นในยุคนี้ พบว่าการที่ AI และ หุ่นยนต์เข้ามาส่งผลกระทบให้งานประเภทใช้แรงงาน และงานที่ใช้ทักษะพื้นฐานนั้นมีความต้องการลดลง ในทางตรงกันข้ามงานที่ใช้สกิลทางด้านเทคโนโลยี ทักษะทางสังคมและอารมณ์ รวมถึงงานที่ใช้ทักษะขั้นสูงนั้นมีความต้องการเพิ่มสูงมากขึ้น


จากผลลัพธ์ความต้องการของตลาดข้างต้นทำให้ McKinsey ได้ทำการสำรวจคนกว่า 18,000 คนจาก 15 ประเทศเกี่ยวกับเรื่อง “Future Skill” ที่คนต้องมีสำหรับ “Future of Work” ที่จะทำให้โอกาสได้รับการจ้างงานที่มากขึ้น รายได้ที่มากขึ้น รวมถึงความพึงพอใจในงานอีกด้วย


ทักษะที่จำเป็นในอนาคตจะต้องมีลักษณะดังนี้


1. การเพิ่มมูลค่าของตัวเราให้เกินกว่าที่ AI และเครื่องจักรทำได้


2. การทำงานในสภาพแวดล้อมที่เป็นดิจิทัล


3. การปรับตัวเข้ากับวิถีการทำงานและอาชีพใหม่อย่างต่อเนื่อง


ลักษณะข้างต้นทำให้เรานั้นมีสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ โดยสามารถจำแนก Future Skills ออกมาได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ดังนี้


กลุ่มแรกคือ Cognitive หรือกระบวนการคิด


ทักษะกระบวนการคิด เป็นทักษะซึ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นทักษะหลักที่เราใช้ในการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นฟัง พูด อ่าน เขียน วางแผน และประมวลผลต่าง ๆ ทักษะนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้เรามีการคิดที่มีตรรกะเป็นเหตุเป็นผล มีขั้นตอนแบบแผน ยังทำให้เรามีความแตกต่างจาก AI และที่สำคัญที่สุดไม่เพียงแต่จะคิดเป็นขั้นตอน แต่ยังทำให้เรามีทักษะสำคัญอย่างการประยุกต์ใช้ให้ถูกสถานการณ์ โดยทักษะด้านกระบวนการคิดก็สามารถแบ่งย่อยได้เป็นอีก 4 ด้าน


Critical Thinking คือ การคิดอย่างมีวิจารณญาณและมีเหตุผล มีทักษะในการเชื่อมโยงข้อมูลพร้อมทั้งทักษะในการแก้ปัญหา

Planning and ways of working หมายถึง มีการวางแผนการทำงาน และจัดสรรเวลาการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและว่องไว

Communication การพูดและเล่าเรื่องในที่สาธารณะให้น่าสนใจ พร้อมทั้งเป็นผู้ฟังที่ดี รวมถึงความสามารถในการสังเคราะห์ข้อความ

Mental Flexibility การมีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ มีความสามารถในการเรียนรู้ พร้อมทั้งสามารถนำความรู้ที่มีปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ รวมถึงความสามารถในการปรับตัวและมุมมองความคิด


กลุ่มที่ 2 Interpersonal หรือทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์


ทักษะนี้ถือว่าเป็นทักษะสำคัญตลอดกาล เพราะเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในการทำงาน ถึงแม้ปัจจุบันเทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยเรื่องการสื่อสาร จนทำให้เรารู้สึกสื่อสารกันได้ไวมากขึ้น ใกล้กันมากขึ้น แต่ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ก็ยังคงเป็นสกิลสำคัญที่เทคโนโลยีไม่สามารถทำได้เทียบเท่ากับมนุษย์ เพราะทักษะนี้พูดถึงวาทศิลป์ การเจรจาโน้มน้าว รวมถึงความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจต่อผู้สื่อสาร และความสามารถในด้านมนุษยสัมพันธ์จะทำให้เราสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าได้ถึงใจของคู่สนทนาเรา โดยสกิลนี้สามารถแบ่งแยกเป็นกลุ่มย่อย ๆ ได้อีก 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่


Mobilizing Systems ทักษะความสามารถในการเป็นต้นแบบที่ดี พร้อมทั้งมีความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจ รู้จักองค์กร และมีทักษะการเจรจาแบบ win-win

Developing Relationships การมีความเห็นอกเห็นใจ สามารถสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจได้ มีการเข้าสังคมที่ดี และมีมนุษยธรรม

Teamwork Effectiveness ทักษะสำคัญเรื่องความเป็นทีมเวิร์ค ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือร่วมใจ ซัพพอร์ตและให้กำลังใจ พร้อมทั้งความสามารถในการmotivate คนที่มีลักษณะนิสัยต่างกัน และที่สำคัญคือมีความสามารถในการแนะนำหรือ coaching ได้


กลุ่มที่ 3 Self-leadership หรือภาวะผู้นำตนเอง


ถ้าจะพูดกันแบบง่าย ๆ ก็คือทักษะที่ทำให้เรารู้จักตัวเอง รู้บทบาทและหน้าที่ เมื่อมีทักษะนี้จะทำให้เราสามารถพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเอง พร้อมทั้งยังทำให้เราเป็นคนที่วิสัยทัศน์ และการปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้อย่างดีอีกด้วย ทักษะด้านภาวะผู้นำตนเอง มีหลัก ๆ ดังนี้

Self-awareness and self-management คือ ความสามารถในการเข้าใจในตนเอง รับรู้จุดแข็ง และรู้แรงกระตุ้นของตัวเอง สามารถควบคุมอารมณ์พร้อมทั้งบริหารจัดการตัวเองได้

Entrepreneurship มีความกล้าที่จะเสี่ยง มีพลัง มีแพชชั่น มองโลกในแง่บวก ออกจากกรอบแบบเดิม ๆ ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมใหม่ ๆ

Goals Achievement ตัดสินใจเด็ดขาด พัฒนาตัวเอง มีความเพียรพยายาม จัดการและรับมือกับความไม่แน่นอนได้ พร้อมทั้งมีจุดมุ่งหมายไปสู่ความสำเร็จ


กลุ่มที่ 4 Digital หรือ ดิจิทัล


กลุ่มสุดท้ายจะเป็นสกิลสำหรับยุคดิจิทัล ที่ต้องมีความรู้ความสามารถและความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่จะรู้วิธีใช้ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เท่านั้น แต่เรายังจะต้องรู้วิธีการใช้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งจรรยาบรรณ และการกรองข่าวสารข้อมูลในโลกดิจิทัลอีกด้วย โดยกลุ่มความสามารถของทักษะด้านดิจิทัลสามารถแยกย่อยได้อีก ดังนี้


Digital Fluency and Citizenship มีความรู้ด้านดิจิทัล และมีจรรยาบรรณในการใช้สื่อดิจิทัล

Software Use and Development มีความสามารถเข้าใจและใช้ซอฟต์แวร์ และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้

Understanding Digital Systems มีความเข้าใจในเทคโนโลยี และการรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ พร้อมทั้งสามารถเข้าใจระบบอัจฉริยะของเทคโนโลยีต่าง ๆ


สกิลทั้งหมดที่กล่าวข้างต้นถูกเรียกว่า DELTAs เพราะเป็นการผสมกันระหว่างทักษะและทัศนคติ มากกว่าจะเป็นเรื่องของทักษะอย่างเดียว โดยทัศนคติที่กล่าวถึงก็หมายถึง การปรับตัวได้และการรับมือกับความไม่แน่นอน


สุดท้ายจะเห็นได้เลยว่าการที่จะมีสกิลที่แข็งแกร่งที่จะสามารถต่อสู้ไปกับการเปลี่ยนแปลงและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ก็จะต้องควบคู่ไปกับทัศนคติด้วย หากเราไม่หยุดพัฒนา กล้าที่จะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ และพร้อมเรียนรู้ตลอดเวลา เราก็จะสามารถตามทันยุคสมัยและเป็นที่ต้องการของตลาดได้อย่างแน่นอน


ที่มา : https://mck.co/3tnlOv1

bottom of page